รีวิวหนัง

Black Adam หนังแอ็คชั่นต่อสู้ทั้งเรื่อง กับความมันที่ไม่ควรพลาด

ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจาก DC Universe ถือเป็นการเปิดตัวของ Dwayne Johnson หรือที่รู้จักในชื่อ The Rock ในฐานะซูเปอร์ฮีโร่ ในเรื่อง Black Adam ดินแดนแห่งคาห์นดักซึ่งได้รับพลังวิเศษจากสภาเวทมนตร์ ซึ่งหลังจากที่เขากลายเป็นวีรบุรุษผู้ต่อต้านชาติ เขาก็ถูกคุมขังอยู่ใต้ดินเป็นเวลา 5,000 ปี จนกระทั่ง Adrianna Tomaz ปล่อยตัวเขาในที่สุด หลังจากที่เขาตื่นขึ้นในยุคปัจจุบัน เขาก็ออกอาละวาดและทวงคืนความยุติธรรม

โดยใช้ความรุนแรง วิธีการที่โหดร้ายของเขาได้รับความสนใจจากทีมงาน Justice Society of America (JSA) ที่ยื่นมือเข้ามาเพื่อหยุดอาละวาดของเขา แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามีภัยคุกคามอื่นที่อันตรายยิ่งกว่า สุดท้ายเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร? สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่มีอะไรต้องพูดถึงมากนักเกี่ยวกับการทำคะแนน ความรู้สึกหลังดูคือ “อยากดูอีก” แต่สิ่งที่ได้มานั้นเหนือความคาดหมาย เมื่อเทียบกับอาหาร

ภาพยนตร์เรื่องนี้คงไม่ใช่อาหารที่อร่อยที่สุดในโลก แต่เป็นอาหารง่ายๆ ที่กินได้ทุกวันคือหนังยังมีอีกเยอะที่จะไม่จบ แต่มีข้อดีอย่างหนึ่งคือย่อยง่ายมากๆ โดยส่วนที่ยังปฏิเสธไม่ได้ของหนังเรื่องนี้คือด้านของบท เพราะเรื่องราวในบทนี้ดำเนินไปแบบเส้นตรงมาก ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน แต่ก็ไม่ถึงกับอ่อนแอจนแย่ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีและสามารถดึงดูดผู้ชมได้ทั้งหมด ถึงบทจะอ่อนก็จริง แต่ก็ถือเป็นอีกจุดแข็งที่ทำให้เรื่องดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว

และไม่ต้องพูดอะไรมากทำให้มีเวลาเพียงพอสำหรับฉากแอ็คชั่นเต็มรูปแบบในสไตล์ภาพยนตร์ The Rock เลยทำให้หนังเรื่องนี้มีฉากบู๊ติดๆ ขัดๆ เยอะมาก ชนิดที่ต้องบอกเลยว่า “เยอะ” จนต้องยกให้กับหนังบู๊ที่มีฉากบู๊มากที่สุดแห่งปี นี่คือเหตุผลที่ผมเขียนพาดหัวรีวิวว่าแฟนแอคชั่นไม่ควรพลาด เพราะคิดถึงมาก ฉากแอคชั่นรุนแรงและสะเทือนอารมณ์มาก ด้วยความที่ตัวละคร Black Adam กลายเป็นตัวละครที่มีพลังพิเศษมากมาย

ทำให้ผู้กำกับต้องเติมเต็มฉากแอคชั่น สไตล์ระเบิดภูเขาเผากระท่อมจนหมด โดยไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าไม่มีเหตุผล เพราะผู้ชมเข้าใจถึงระดับความแข็งแกร่งของตัวละครอยู่แล้ว จากมุมมองของ Performance ก็ไม่พูดถึงไม่ได้เช่นกัน โดยส่วนตัวคิดว่าทุกคนสามารถทำหน้าที่ของตนได้อย่างถูกต้องเหมาะสม แม้บุคลิกและมิติของตัวละครจะอ่อนลงพอสมควร แต่นักแสดงก็เล่นได้สมบทบาท ป๋า The Rock ยังคงมาตรฐานตัวจริง

นอกจาก The Rock แล้ว Aldis Hodge ในบท Hawkman และ Pierce Brosnan ในบท Dr. โชคชะตาก็โดดเด่นเช่นกัน ดูเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ตัวใหญ่มาก เพียร์ซเป็นคนที่ฉันชอบในเรื่องนี้ เขามีสีหน้าใจดี แถมบทบาทของตัวละครก็เท่มาก เขาแสดงดีจนฉันหลงรักหมอ ชะตากรรมโดยไม่รู้ตัว

อ่านเพิ่มเติม เว็บรีวิวหนัง