รีวิวหนัง

ชีวิตอัศจรรย์ของพาย กับการเอาชีวิตรอดบนท้องทะเลกับ เสือเบงกอล 

Life Of Pi หนังเรื่องนี้ถูกสร้างขึ้นมาเกี่ยวกับเรื่องราวชีวิตของเธอเอง โดยตัวของเขานั้นได้โตขึ้นมาในที่ทำงานของพ่อของเธอนั่นก็คือสวนสัตว์ ตลอดจนที่มาของชื่อจริงว่า “พิสซีน โมลิทอร์ พาเทล” ที่ทำให้เขาออกเสียงใกล้เคียงกับคำว่า “ชิ้งฉ่อง” จนถูกเพื่อนสมัยเรียนล้อเล่นไปนาน เวลา. จนกระทั่งเปิดภาคเรียนถัดไป เขาก็แปลกใจที่ได้แนะนำชื่อเล่นใหม่ของเขาว่า “พาย” เป็นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์และทำซ้ำในทุกวิชาจนทุกคนจำเขาได้ นั่นคือชื่อใหม่

นอกจากนี้ ยังเล่าเรื่องราวชีวิตของเขา เช่น กิน จีบ หรือ ทำตาม 3 คำสอน เป็นต้น แต่ความเข้มข้นของเรื่องราวที่จุดหักเหเริ่มต้นเมื่อพายพ่อของเขาตัดสินใจขายสวนสัตว์และสัตว์ทั้งหมดเพื่อเริ่มต้น ชีวิตใหม่ในแคนาดา พวกเขาต้องไปบนเรือขนส่งขนาดใหญ่กับสัตว์ แต่ระหว่างทางเกิดพายุทำให้เรือจม เรือพายต้องซ่อนตัวอยู่ในเรือลำเล็ก ฉันตื่นขึ้นลอยอยู่กลางทะเลในเรือชูชีพ แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือการเห็นว่าเขาไม่ได้อยู่คนเดียว แต่ต้องเอาตัวรอดในทะเลกับ “ริชาร์ด ปาร์กเกอร์”

เสือเบงกอลหนีออกจากกรงเมื่อเรืออับปาง แล้วสิ่งที่พายทำเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้และในมุมมองของผมเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ เริ่มจากภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้การเล่าเรื่องที่เข้าใจง่าย ดูสนุก ไม่มีอะไรซับซ้อนเกินไป ดูเหมือนว่าจะเน้นไปที่เรื่องของงานภาพในฉากต่างๆ ที่ดูสวยงามและตระการตา ทำให้เราได้เห็นความงามของท้องทะเลที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน ถ้าเกาะที่คุณบังเอิญเจอกลางทะเลคงจะสวยจริงๆ แต่น่าเสียดายที่มันเป็นแค่เกาะในจินตนาการ

จะบอกว่าจุดเด่นและน่าจดจำของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ความสวยงามของกราฟิกก็คงไม่มากเกินไป ความประทับใจอีกประการหนึ่งของฉันคือในภาพยนตร์เรื่องนี้มีแง่มุมที่แตกต่างกันมากมายของวัฒนธรรมอินเดียที่เราอาจไม่เคยเห็นมาก่อน เช่น พูดเกี่ยวกับความเชื่อของศาสนาต่างๆ เช่น ฮินดู คริสต์ และอิสลาม ผ่านร่างของปิ ที่ยินดีรับฟังคำสอนของทุกศาสนา ยังเต็มใจที่จะเข้าใจด้วยว่าทุกศาสนาสอนให้เราเป็นคนดี ไม่กีดกัน ตัวละครที่เป็นพ่อของไผ่ แม้แต่ผู้ไม่เชื่อและแม่ชาวฮินดูของเขาก็ไม่ทำ ไม่เคยผลักไสหรือบังคับอะไร ถือเป็นการให้เกียรติและเคารพในความเชื่อของกันและกัน

เป็นตัวอย่างที่ดีมาก สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจมากที่สุดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้อาจไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องที่วางตั้งแต่ต้นจนจบ แต่ก็คุ้มค่าที่จะไตร่ตรองว่าคนจะไม่สนใจว่าของจริงหรือของปลอมเป็นอย่างไร เราเชื่อในสิ่งที่เราอยากจะเชื่อเท่านั้น แน่นอนว่าเมื่อหนังมาถึงบทสรุปของแนวหนังเรื่องนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับคนดูอย่างเราว่าพวกเขาจะคิดหรือตีความยังไง และเลือกทำในสิ่งที่เป็นจริง ดังนั้น หากใครกำลังมองหาหนังที่ให้แง่คิดดีๆ มีเรื่องน่าสนใจ ก็วิเคราะห์แล้วคิดตาม แม้แต่ผู้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่น่าสนใจในโลกใต้ทะเลที่เพ้อฝันพร้อมกราฟิกที่คมชัดสวยงามก็ไม่ควรพลาด

อ่านเพิ่มเติม เว็บรีวิวหนัง